เส้นทางของพระพุทธศาสนา
เราเป็นใคร มาจากไหน เราไม่รู้
เรามาอยู่ เพื่ออะไร ใครรู้บ้าง
เราจะไป แห่งไหน ใครรู้ทาง
หากจิตว่าง จะรู้เท่า เราไม่มี
พระอาจารย์เสวีพล จนฺทโชโต
วัดป่าแก่งหวาย จ.ระยอง
เมื่อเรามีความเห็นว่า...ตัวเราไม่ใช่ของเรา
แม้มีความโกรธ ก็ไม่มีความ พยาบาท
อาฆาต คิดปองร้าย
พระอาจารย์อนันต์ อกิญจโน
วัดมาบจันทร์ จ.ระยอง
พระสมุห์ชัยรัช อคฺคธมฺโม
เกิดเมื่อวันที่ 30 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2499
ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
อุปสมบท
เมื่อวันที่ 9 เดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2543 วัดเภตาสุขารมณ์ อำเภอเมืองจังหวัดระยอง สังกัดที่วัดมาบจันทร์
สาขาหนองป่าพง ที่ 73 อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
มีพระครูปลัดอนันต์ อกิญจโน เป็นเจ้าอาวาส
ปัจจุบัน
เป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์พุทธสิงขร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2543 - 2547
จำพรรษาวัดมาบจันทร์ จังหวัดระยอง
2548
สร้างและจำพรรษา ที่พักสงฆ์ป่าสัก จังหวัดระยอง
2549 - 2554
สร้างและจำพรรษาวัดป่าอัครวัฒนวินัย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
2554 - 2556
สร้างและจำพรรษา ที่พักสงฆ์พุทธสิงขร อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2557 - 2558
สร้างธรรมสถานธรรมสโรช อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี (จำพรรษาที่พักสงฆ์พุทธสิงขร)
2559 - 2560
สร้างและจำพรรษา วัดดอยม่อน อ.เมือง จ.ลำพูน
2561 - 2562
สร้างพระเจดีย์พุทธคยาจำลองและจำพรรษา ที่พักสงฆ์พุทธสิงขร อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2563 - 2564
จำพรรษา ที่พักสงฆ์พุทธสิงขร อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2564
เริ่มโครงการสร้าง สวนธรรมรศนา อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ความมุ่งมั่นของเรา
การสร้างสถานธรรมหรือวัด เพื่อเป็นสถานที่ประพฤติปฎิบัติธรรม ให้เกิดมีความรู้คือ ปัญญา พัฒนาจิต พัฒนาใจ ตามคำสอนของพระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์เป็นผู้ชี้ทางให้มนุษย์ทั้งหลาย ได้รู้เห็น สัจธรรม ความเป็นจริง ที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้วด้วยพระองค์เอง ในอริยสัจ 4 พระองค์ทรงเมตตาและมหากรุณา ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้หาทางออกจากทุกข์ โดยการเรียนรู้ตามคำสั่งสอนของพระองค์และประพฤติปฎิบัติ ตามจนเกิดสติ ปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริง แล้ววางทุกสิ่งไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
" พระสมุห์ชัยรัช อคฺคธมฺโม "
พระมหาศิรัส ปสนฺนจิตฺโต
วัดป่าภูมาศ จ.ระยอง
“ อนุโมทนากถารศนาสถาน “
ส่วนตัวแล้วอาตมาภาพไม่ค่อยได้ไปไหน เรียกได้ว่าอยู่แต่ที่ระยองเป็นหลัก แต่เมื่อท่านพระอาจารย์ชัยรัชเมตตาชักชวนลงมาประจวบคีรีขันธ์ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นเมืองแห่งความสบายใจ ทั้งอากาศ สถานที่ และผู้คน
ชาวประจวบคีรีขันธ์เป็นคนมีบุญที่มีวัดหลายวัดเป็นหลักใจและกับทั้งเป็นผู้ใฝ่ธรรม
สวนธรรมรศนา เป็นความตั้งใจอันดีจากพุทธศาสนิกชนอันหมายถึงศรัทธาร่วมกันของทั้งพระและโยม ที่จะสร้างสถานที่แห่งนี้เพื่อการปฏิบัติธรรม และเพื่อบูชาคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปฏิบัติบูชา
ขึ้นชื่อว่างาน ทั้งงานภายนอกและงานภายใน ล้วนแล้วแต่ต้องเจออุปสรรคและต้องแก้ปัญหาด้วยปัญญาทั้งนั้น ซึ่งก็หมายใจไว้ว่าท่านๆทั้งหลายจะดำรงสติมั่นผ่านไปได้ทุกอุปสรรคแน่แท้
คุณประโยชน์อันท่านทั้งปวงตั้งจิตไว้ดีแล้วแก่สวนธรรมรศนา ขอคุณความดีนั้นๆตามส่งสนองทุกท่านตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ.
พุทฺธสาสนนํ จิรํ ติฏฺฐตุ
ขอให้พระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจงดำรงมั่นจวบจิรัฏฐิกาลเทอญ.
พระมหาศิรัส ปสนฺนจิตฺโต
วัดป่าภูมาศ จ.ระยอง
๑ เมษายน ๒๕๖๔
พระมหาวีรพงศ์ วีรปญโญ
ที่พักสงฆ์พุทธวิภาวดี
อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฏร์ธานี
เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง
ที่คุณแม่รศนา ฟอร์ตี้ พร้อมลูกๆ ผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้มอบถวายที่ดินเพื่อสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นที่พักผ่อนทางจิตวิญญาณ ด้วยการมาทำวัตร สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ เจริญจิตภาวนา เพื่อ ลด ละ เลิก สิ่งที่เป็นบาปอกุศล บำเพ็ญกุศลให้เกิดขึ้นในจิตใจให้ได้พบกับความสะอาด สว่าง ความบริสุทธิ์ และความสุข ที่แท้จริง
พระมหาวีรพงศ์ วีรปญโญ
ที่พักสงฆ์พุทธวิภาวดี
อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฏร์ธานี
สำนักสงฆ์แสงพระธรรม จ.สระแก้ว
สำนักสงฆ์แสงพระธรรม จ.สระแก้ว
พระอาจารย์ปริญญา ธีรปญฺโญ
สำนักสงฆ์แสงพระธรรม จ.สระแก้ว
...สวนธรรมรศนา..
..อาหารกาย มากมาย หลากหลายรส
ยังไม่หมด สิ้นรส แห่งตัณหา
รสแห่งธรรม ย่อมชนะ รสนานา
รศนา สวนแห่งธรรม ฉ่ำชื่นใจ
เชิญร่วมสร้าง สถาน ธรรมารส
เพื่อประโยชน์ เพื่อศาสน์ อันสดใส
อริยะทรัพย์ ฝั่งไว้ ในภายใน
เกิดชาติใด ได้วิมุติหลุดพ้นเอยฯ
17 เมษายน 2564
...สวนธรรมรศนา...
สร้างสวนธรรมเพื่อเผยแผ่ธรรมจริงแท้
ของพ่อแม่ ครูอาจารย์ จากทุกทิศ
สวนธรรม รศนา อบรมจิต
ให้ชีวิต ได้ใกล้ชิด สนิทธรรม
จะเป็นที่ สวดมนต์ ภาวนา
ฟังพระธรรมะ เทศนา ทุกเช้าค่ำ
ได้ให้ทาน รักษาศีล เป็นประจำ
แสงแห่งธรรม จะสว่าง กลางเมืองเอยฯ
22 เมษายน 2564
พระอาจารย์ปริญญา ธีรปญฺโญ
สำนักสงฆ์แสงพระธรรม จ.สระแก้ว
ที่ดอนทรายผืนนี้ เป็นแปลงแรกที่คุณแม่ของข้าพเจ้าคือ คุณรศนา ฟอร์ตี้ (สกุลเดิมคือ ธรรมสโรช ก่อนสมรสกับ พ.ต.อ.(พิเศษ) เล็ก ฟอร์ตี้ ) ซื้อไว้ตอนอายุเพียง 36 ปี ด้วยเงินเดือนที่เก็บออมไว้
ข้าพเจ้ามีความตั้งใจมากว่า 15 ปีที่จะใช้สถานที่นี้เพื่อสาธารณประโยชน์จะได้เป็นที่ระลึกถึงและเป็นกุศลแด่บิดา มารดา ของข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้าหวังว่าความตั้งใจแน่วแน่ และความมานะ พยายามของคุณแม่ข้าพเจ้าที่จะซื้อที่ดินด้วยน้ำพัก น้ำแรงของตัวเอง และสามารถซื้อที่ดินหลายไร่ได้นั้น จะเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านที่มีความฝันมีความตั้งใจเด็ดเดี่ยวและลงมือทำสิ่งที่จะพาไปยังจุดหมายนั้นอย่างไม่ย่อท้อแม้จะมีอุปสรรคใดๆก็ตาม "ดังกลอนที่คุณแม่เขียนไว้ดังนี้"
"อันความหวัง จะสัมฤทธิ์ ประสิทธิผล
อยู่ที่ตน พยายาม เพื่อความหวัง
มัวแต่ฝัน ทุกสิ่ง ไม่จริงจัง
ก็ต้องพัง เข้าสักวัน เพราะฝันเพลิน"
แต่สิบกว่าปีแรกก็ยังไม่มีอะไรลงตัว นับว่าเป็นจังหวะเหมาะที่ข้าพเจ้ามีโอกาส กราบเรียนหลวงพ่อชัยรัชถึงความตั้งใจนี้ ซึ่งท่านได้แนะนำให้ข้าพเจ้าติดต่อหน่วยงานราชการ จะได้เข้ามาดูแลและใช้ที่ดินเพื่อประโยชน์ ซึ่งในความเห็นของข้าพเจ้าคิดว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็มีสถานที่สาธารณะในความดูแลมากอยู่แล้ว จึงพักความคิดนี้ไป
ในที่สุดหลวงพ่อท่านจึงเมตตารับสถานที่นี้ไว้ เพื่อทำเป็นสวนธรรมหรือพูดให้เห็นภาพได้ว่าเป็นสวนป่าสำหรับการเรียนรู้และปฎิบัติธรรม
แม้ท่านใดจะไม่มีประสบการณ์ในการปฎิบัติธรรมเลย หรือปฎิบัติธรรมอยู่แล้ว ก็สามารถมาเรียนรู้เรื่องการทำสมาธิและปฎิบัติธรรมที่นี่ได้นะคะ เพื่อพัฒนาจิตของตนให้เข้มแข็ง จะได้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน ซึ่งแฝงไปด้วย ทุกข์ โทษ ภัย ได้อย่างมีสติคะ
สำหรับชื่อ "รศนา" นั้น เป็นชื่อที่คุณตาของข้าพเจ้าคือ พล.ต.พระยาวิบุลอายุรเวท (เสข ธรรมสโรช) ซึ่งเป็นแพทย์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้ขอพระราชทานชื่อที่คล้องจองกันสองชื่อ "รศนา-ผกาแก้ว" คุณแม่ได้รับพระราชทานชื่อ "รศนา" ส่วนคุณน้าต่างมารดา ได้รับพระราชทานชื่อ "ผกาแก้ว" พร้อมกับทรงพระราชทานเหรียญเสมาปปร ร.๗ ให้คนละเหรียญเป็นที่ระลึกด้วย
คุณพงศ์ทิพย์ ฟอร์ตี้
26 เมษายน 2564
แม่ชีปิยะวรรณ สุทธาพานิช
ทุกข์ สุข เป็นสภาพธรรมที่คนทุกคนต้องเผชิญ ผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนจิตใจให้เกิดปัญญา ยามทุกข์ก็ดิ้นรนกระวนกระวาย ยามสุขก็หลงระเริงใจ หลักธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ในพระพุทธศาสนามีอยู่ และปฏิบัติได้จริง จิตใจที่ได้รับการฝึกจนเกิดปัญญาทางธรรม จะไม่แกว่งไกวไปกับอารมณ์ที่เคยทำให้ทุกข์หรือทำให้สุข แต่จะพัฒนาไปสู่ความสงบ มั่นคงต่อทุกๆอารมณ์อย่างน่าอัศจรรย์
สวนธรรมรศนา สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาธรรมะเพื่อพัฒนาจิตใจ ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งชุมชุนแต่ภายในสงบสัปปายะ การเดินทางไปมาสะดวก จึงขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างธรรมสถานแห่งนี้ เพื่อรองรับผู้คนที่ใฝ่หาความสงบของจิตใจ
"แม่ชีปิยะวรรณ สุทธาพานิช"
ประวัติความเป็นมาของสวนธรรมรศนา
เมื่อปี พ.ศ. 2556 คุณพงศ์ทิพย์ ฟอร์ตี้ ได้มาปฏิบัติธรรมที่พักสงฆ์พุทธสิงขร และได้มากราบเรียนปรึกษาอาตมาภาพว่า มีที่ดินของคุณแม่รศนา ว่างเปล่าอยู่ 5 ไร่ มีความประสงค์ จะสร้างเป็นสวนสาธารณะ หรืออะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่ออุทิศบุญกุศลให้คุณแม่ เพราะที่ดินนี้เป็นแปลงแรกที่คุณแม่ซื้อไว้นานแล้วก่อนมาอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อาตมาได้แนะนำให้มอบให้ส่วนราชการหรือเทศบาลไปจัดทำจากนั้นก็เงียบไป พอมาปี 2563 คุณพงศ์ทิพย์ ก็มาคุยอีกครั้ง อาตมาก็ถามว่าทำไปหรือยัง โยมบอกว่ายังค่ะ อาตมาเลยถามว่าจะทำมั้ย ทำเป็นสวนธรรมเพื่อให้คนมาไหว้พระ สวดมนต์ เจริญกรรมฐาน โยมตอบตกลง และได้มาทำบันทึกมอบที่ดินให้จำนวน 6 ไร่ เมื่อวันที 26 สิงหาคม 2563 และขอใช้ชื่อคุณแม่รศนา เป็นชื่อสวนธรรมต่อไป
นั้นคือที่มาของการเริ่มทำตามเจตนารมณ์ของคุณพงศ์ทิพย์ ฟอร์ตี้
อาตมาภาพขออนุโมทนาในจิตและเจตนาที่ได้สละที่ดินแปลงนี้ เพื่อจัดสร้าง สวนธรรมรศนา เพื่อเผยแผ่ พระตามคำสอนของพระศาสดาพระสัมพุทธเจ้าสืบไป
ขอเจริญพร
"ความกตัญญู เป็นเครื่องหมายของคนดี"
ณ.แดนดินถิ่นนี้ที่ร่มรื่น แว่วเสียงคลื่นซัดหาดไม่ขาดสาย ยลแสงทองส่องน้ำเป็นประกาย เย็นพระพายพัดผ่านสำราญทรวง จะลืมความวุ่นวายทั้งหลายแหล่ ที่จอแจทั่วไปในเมืองหลวง ทิ้งมลพิษโรคร้ายภัยทั้งปวง จงตัดห่วงทุกอย่างให้ห่างใจ
ได้มอบโฉนดที่ดินให้สร้างสวนธรรมรศนา
แพทย์หญิงสุพรรณี ประดิษฐ์สถาวงษ์
คนเราทุกคนล้วนปรารถนาความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่หลาย ๆ ครั้ง ที่แม้เราจะมีข้าวของ เงินทองเท่าไร ก็ไม่ทําให้เรามีความสุข เพราะเป็นทุกข์ของใจ คนเรามักรู้จักแต่กาย แต่ไม่รู้ใจ เราโชคดีที่ได้เกิดมาทันพระพุทธศาสนา ทางพุทธศาสนาสอนให้เราดูแลใจของเรา เราต้องไม่พลาด โอกาสทองนี้ ที่จะได้ดูแลใจของเรา ให้อาหารใจของเรา ด้วยการทําบุญ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ สมาธิแม้จะเป็นเรื่องพื้นฐานง่าย ๆ แต่สมาธิเป็นจุดเริ่มต้นทําให้ใจแข็งแรง คือให้พลังจิต ทําให้นอนหลับ หายเครียด และทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สวนธรรมรศนา จะเป็นสถานที่หนึ่งซึ่งเราจะได้ไปทําบุญ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ให้อาหารแก่ใจในช่วงสั้น ๆ แต่ก็มีประโยชน์ล้นเหลือ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณแม่รศนา และทุกท่านที่เข้าร่วมสร้างสวนธรรมรศนาให้ สําเร็จเป็นประโยชน์ต่อชาวประจวบคีรีขันธ์ และเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาต่อไป
"แพทย์หญิงสุพรรณี ประดิษฐ์สถาวงษ์"